คำศัพท์ | ความหมาย | คำอธิบาย |
PACKAGE POLICY | กรมธรรม์ภัยรวม | ้กรมธรรม์ที่ให้ความคุ้มครองภัยหลักหลายประเภทรวมอยู่ในกรมธรรม์ฉบับเดียวกัน เช่น กรมธรรม์ประกันภัยคุ้มครองเจ้าของบ้านที่คุ้มครองอัคคีภัย รถยนต์ น้ำท่วม เป็นต้น |
PAIR AND SET CLAUSE | ข้อกำหนดคู่ละชุด | ข้อกำหนดในกรมธรรม์ประกันภัยทรัพย์สิน ซึ่งกำหนดว่า เมื่อเกิดความเสียหายแก่ของชิ้นหนึ่งในคู่ หรือชิ้นหนึ่งหรือหลายชิ้นในชุด จะไม่ถือว่าเป็นการเสียหายสิ้นเชิงทั้งคู่หรือทั้งชุด แต่จะกำหนดความเสียหายโดยพิจารณาความสำคัญหรือความสัมพันธ์ของชิ้นที่มีต่อคู่หรือต่อชุดนั้น ในทางปฏิบัติเพื่อหลีกเลี่ยงการกำหนดความเสียหายที่ยุ่งยาก ผู้เอาประกันภัยมักจะโอนทรัพย์สินที่เหลือให้ผู้รับประกันภัย และขอรับการชดใช้ความเสียหายสิ้นเชิงของทั้งคู่หรือทั้งชุด |
PARAMOUNT CLAUSE | ข้อกำหนดสุดยอด | ข้อกำหนดในสัญญาประกันภัย ซึ่งกรณีที่เกิดการคลุมเครือไม่ชัดเจนในข้อความใดในสัญญาให้ใช้ข้อกำหนดนี้บังคับ |
PARAMOUNT WAR CLOUSE(CARGO) | ข้อกำหนดสุดยอดสำหรับภัยสงคราม(สินค้า) | ข้อกำหนดเกี่ยวกับการเอาประกันภัยต่อการขนส่งสินค้าทางทะเล ซึ่งระบุว่า ความคุ้มครองภัยสงคราม ก. ต้องไม่เกิดข้อความ และเงื่อนไขของ London Institute War Clause ข. ผู้เอาประกันภัยต่อจะใช้ข้อจำกัดของ United Kingdom Water Borne Agreement ก็ได้ |
PARITY CLAUSE | ข้อกำหนดความเสมอภาค | ข้อกำหนดในสัญญาประกันภัยทางทะเลที่ระบุว่า ในกรณีที่มีสัญญามากกว่า 1 ฉบับ ถ้าอัตราเบี้ยประกันภัยในสัญญาเหล่านั้นแตกต่างกันให้ใช้อัตราเบี้ยประกันภัยที่ต่ำสุดบังคับ |
PARTIAL INDEMNITY CLAUSE | ข้อกำหนดจ่ายค่าสินไหมทดแทนบางส่วน | ข้อกำหนดในข้อตกลงไม่เรียกร้องต่อกัน (knock-for-knock agreement) สำหรับการประกันภัยรถยนต์ ซึ่งกำหนดว่า ในกรณีที่ผู้รับประกันภัยฝ่ายหนึ่งไม่ได้ให้ความคุ้มครองความเสียหายต่อตัวรถ หรือให้ความคุ้มครอง แต่กำหนดจำนวนเงินความรับผิดส่วนแรกไว้สูงจนไม่ต้องจ่ายค่าเสียหายผู้รับประกันภัยรายนี้ตกลงจะชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ผู้รับประกันภัยของคู่กรณีเป็นจำนวนครึ่งหนึ่งที่ผู้รับประกันภัยของคู่กรณีได้จ่ายไป โดยไม่คำนึงถึงว่าฝ่ายใดเป็นผู้รับผิดตามกฎหมาย |
PARTIAL LOSS | ความเสียหายบางส่วน | ความเสียหายซึ่งไม่ใช่ความเสียหายสิ้นเชิง(total loss) |
PARTICULAR AVERAGE(LOSS) | ความเสียหายเฉพาะ | คำที่ใช้ในการประกันภัยทางทะเลหมายถึง 1. ความเสียหายบางส่วนที่เกิดขึ้นกับวัตถุที่เอาประกันภัยจากเหตุที่เอาประกันภัยไว้ ซึ่งเป็นภาระของผู้ที่มีส่วนได้เสียในทรัพย์สินนั้น และไม่มีสิทธิที่จะเรียกร้องให้ผู้อื่นมาร่วมเฉลี่ยความเสียหายด้วย ซึ่งต่างกับความเสียหายร่วม (general average) 2. ใช้ในความหมายเดียวกัน ความเสียหายบางส่วน (partial loss) |
PARTICULAR CHARGES | ค่าใช้จ่ายเฉพาะ | ในการประกันภัยทางทะเลหมายถึงค่าใช้จ่ายที่ผู้เอาประกันภัยหรือตัวแทนของผู้เอาประกันภัยได้จ่ายไป เพื่อป้องกันภัยหรือเพื่อพยายามลดความเสียหายที่จะเกิดแก่ทรัพย์สินที่เอาประกันภัยไว้ ค่าใช้จ่ายนี้ ผู้รับประกันภัยจะชดใช้ให้ โดยปรกติแล้ว ผู้รับประกันภัยจะจำกัดความรับผิดเฉพาะค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น ณ จุดปลายทาง |
PARTNERSHIP INSURANCE | การประกันชีวิตเพื่อธุรกิจ | มีความหมายเหมือนกับ business insurance และ corporation insurance |
PART OF | บางส่วน | เป็นคำที่ใช้ในสัญญาประกันภัยเพื่อระบุให้ชัดเจนว่า ผู้รับประกันภัยต่อได้รับเสี่ยงภัยไว้เฉพาะบางส่วนของความคุ้มครองตามสัญญาประกันภัยฉบับเดิม และในกรณีที่มีการรับเสี่ยงภัยต่ำกว่าส่วนตกลง (short closing) ก็จะไม่รับผิดต่อความเสียหายทั้งหมด |
PART TIME AGENT | ตัวแทนไม่เต็มเวลา | ตัวแทนที่ไม่ได้กระทำหน้าที่ตัวแทนเต็มเวลา แต่ทำเป็นบางเวลาเพื่อหารายได้เพิ่มเติม |
PARTY WALL | กำแพงร่วม | กำแพงซึ่งแยกหรือแบ่งอาคาร 2 หลัง และผู้ครอบครองอาคารแต่ละหลังมีสิทธิ์ในกำแพงร่วมกัน |
PASSENGER LIABILITY | ความรับผิดต่อผู้โดยสาร | ความรับผิดของผู้รับขนส่งผู้โดยสาร ในการบาดเจ็บหรือตายของผู้โดยสารที่ตนรับขนส่ง |
PAUSCHAL | เบี้ยประกันภัยจ่ายล่วงหน้า | เป็นคำภาษาดัตซ์และเยอรมันที่ใช้ในการประกันภัยสินค้าสำหรับการขนส่งทางทะเลหมายถึงเบี้ยประกันภัยรายปีจ่ายล่วงหน้าเป็นการชั่วคราว ซึ่งจะปรับตามความเป็นจริงต่อไป |
PAYROLL DEDUCTION INSURANCE | มีความหมายเหมือนกับ salary savings insurance | |
PEAK RISK | การเสี่ยงภัยสูงสุด | การเสี่ยงภัยที่มีจำนวนเงินเอาประกันภัยสูงมากเป็นพิเศษเมื่อเทียบกับจำนวนเงินเอาประกันภัยรายอื่นๆ ที่รับประกันภัยในกลุ่มเดียวกัน |
PEAK VALUE CLAUSE | ข้อกำหนดมูลค่าสูงสุด | ข้อกำหนดหนึ่งในการประกันภัยขนส่งสินค้า ซึ่งกำหนดไว้ว่า จำนวนเงินเอาประกันภัยจะต้องเป็นจำนวนตามราคาสูงสุดของตลาดสินค้านั้นในขณะที่เกิดความเสียหายขึ้น |
PENALTY | วงเงินโทษปรับ | จำนวนเงินสูงสุดซึ่งระบุไว้ในสัญญาประกันภัยค้ำประกันว่า จะจ่ายให้แก่ผู้ค้ำประกันในกรณีที่บุคคลซึ่งได้ค้ำประกันไว้กระทำการทุจริต |
PERCENTAGE ADJUSTMENTS | การปรับอัตราร้อยละ | การปรับอัตราเบี้ยประกันอัคคีภัยขึ้นหรือลงให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของประสบการณ์อัคคีภัยที่เกิดขึ้น |
PERCENTAGE OF FIRE LOSS INSURANCE | การประกันภัยแบบร้อยละของความเสียหายอัคคีภัย | การประกันความเสียหายสืบเนื่องที่ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเป็นร้อยละของความเสียหายของทรัพย์สินที่เกิดจากอัคคีภัย |
PERFORMANCE BOND | กรมธรรม์ค้ำประกันการรับเหมา | สัญญาค้ำประกันการรับเหมาดำเนินการที่บริษัทประกันภัยเป็นผู้ออกให้ โดยระบุว่า หากผู้รับเหมาดำเนินการไม่แล้วเสร็จหรือไม่สมบูรณ์ตามสัญญาแล้ว บริษัทประกันภัยจะชดใช้ค่าเสียหายดังกล่าวให้ เช่น กรมธรรม์ค้ำประกันการรับเหมาก่อสร้าง |
PERIL | ภัย | เหตุแห่งการสูญเสียที่จะเกิดขึ้นได้ เช่น โจรกรรม ไฟไหม้ |
PERILS OF THE SEA | ภัยทางทะเล | ตัวภัยหรือเหตุที่ทำให้เกิดความเสียหาย ที่เป็นเหตุหรือตัวภัยที่เกิดขึ้นจากทะเล หรือที่เกิดจากสภาพปรกติในการเดินทางในทะเล เช่น ความเสียหายจากพายุ การชนกัน การเกยตื้น แต่ไม่รวมความเสียหายจากการสึกหรอซึ่งเกิดจากคลื่นลมตามปรกติ |
PERIOD POLICY | กรมธรรม์แบบกำหนดเวลา | มีความหมายเหมือนกับ time policy |
PERPETUAL INSURANCE | การประกันภัยแบบตลอดไป | การประกันอัคคีภัยแบบหนึ่ง ที่มิได้กำหนดวันสิ้นสุดของสัญญา การประกันภัยแบบนี้ไม่ค่อยนิยมใช้กันมากนัก |
PILFERAGE | การลักเล็กขโมยน้อย | การขโมยทรัพย์สินบางส่วนโดยไม่ทำความเสียหายแก่อาคาร ภาชนะหรือหีบห่อที่บรรจุ |
PLURALITY OF RISK | พหุภัย | การที่กรมธรรม์ประกันอัคคีภัยฉบับเดียวให้ความคุ้มครองสถานที่มากกว่าหนึ่งแห่งหรือคุ้มครองทรัพย์สินมากกว่าหนึ่งอย่าง |
PLUVIUS INSURANCE | มีความหมายเหมือนกับกับ weather insurance | |
POLICIES INCEPTING BASIS | หลักถือกรมธรรม์มีผล | หลักการหนึ่งในสัญญาการประกันภัยต่อ ซึ่งถือว่าความรับผิดของผู้รับประกันภัยต่อ เริ่มตั้งแต่สัญญาประกันภัยฉบับต้นมีผลบังคับแทนที่จะถือหลักว่า ความเสียหายได้เกิดขึ้นหรือได้รับแจ้งว่าได้เกิดขึ้นในช่วงที่สัญญาประกันภัยต่อมีผลบังคับ |
POLICY | กรมธรรม์ประกันภัย | ตราสารที่มีรายมือชื่อของผู้รับประกันภัยและมีรายการแสดงวัตถุที่เอาประกันภัย จำนวนเงินเอาประกันภัย ชื่อผู้เอาประกันภัย ชื่อผู้รับประกันภัย วันที่สัญญาเริ่มต้นและสิ้นสุด และอื่นๆ ตามที่กฎหมายบังคับ ตลอดจนเงื่อนไขเกี่ยวกับประโยชน์ สิทธิ และหน้าที่ของผู้เอาประกันภัยและผู้รับประกันภัย (คำนี้มาจาก ภาษาอิตาลี ว่า polizza) |
POLICY CONDITIONS | เงื่อนไขกรมธรรม์ | ข้อความที่ปรากฏในกรมธรรม์ประกันภัยและผู้เอาประกันภัยต้องถือปฏิบัติ |
POLICYHOLDER ; POLICY-HOLDER | ผู้ถือกรมธรรม์ | ผู้เอาประกันภัย |
POLICY PROOF OF INTEREST | กรมธรรม์ยอมรับส่วนได้เสีย | กรมธรรม์ประกันภัย ซึ่งผู้รับประกันภัยตกลงที่จะไม่ให้ผู้เอาประกันภัยต้องพิสูจน์ส่วนได้เสียในเหตุที่เอาประกันภัย เมื่อมีการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน กรมธรรม์เช่นนี้ ตามหลักกฎหมายถือว่ามีลักษณะเป็นการพนันขันต่อ ฉะนั้นจึงนำไปเป็นหลักฐานในการฟ้องศาลไม่ได้ แต่มีปฏิบัติกันอยู่บ้างในการประกันภัยทางทะเล โดยถือเป็นการยอมรับด้วยเกียรติยศ |
POLICY SIGNING OFFICE | สำนักงานออกกรมธรรม์ | สำนักงานซึ่งผู้รับประกันภัยต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นของสถาบันลอยด์หรือของผู้รับประกันภัยอื่น รวมกันจัดตั้งขึ้นเพื่อเป็นสำนักงานออกกรมธรรม์แทนผู้รับประกันภัยเหล่านั้น |
POLICY VALUE | มีความหมายเหมือนกับ reserve ความหมายที่ 2 | |
POLICY YEAR | ปีกรมธรรม์ | ระยะเวลาที่กรมธรรม์ประกันภัยมีผลบังคับครบรอบ 1 ปี โดยนับตั้งแต่วันที่สัญญาเริ่มมีผลบังคับหรือวันต่ออายุสัญญา |
POLITICAL RISKS | ภัยการเมือง | ในการประกันภัยสินเชื่อและการลงทุนหมายถึงการเสี่ยงภัยต่างๆ ที่เป็นผลจากการเมือง ซึ่งทั้งผู้รับประกันภัยและผู้เอาประกันภัยไม่อาจควบคุมได้ เช่น การล่าช้าในการส่งเงิน การอายัดทรัพย์สิน หนี้สิน สงคราม สงครามกลางเมือง หรือการยึดทรัพย์สิน |
POOL | กลุ่มรับเสี่ยงภัย | การรวมตัวกันของผู้รับประกันภัยหลายรายเพื่อร่วมกันรับประกันภัยตามประเภทที่ตกลงกันไว้ โดยแบ่งการรับเสี่ยงภัยให้แก่สมาชิกของกลุ่มตามอัตราส่วนที่กำหนดไว้ |
PORTFOLIO | ยอดรวม | 1. จำนวนรวมของธุรกิจหรือการรับเสี่ยงภัยทุกประเภทของผู้รับประกันภัยหรือผู้รับประกันภัยต่อ 2. จำนวนรวมของธุรกิจหรือการรับเสี่ยงภัยแต่ละประเภทของผู้รับประกันภัยหรือผู้รับประกันภัยต่อ |
PORTFOLIO MIX | ยอดรวมผสม | องค์ประกอบต่างๆ ที่ประกอบเป็นยอดรวมธุรกิจของผู้รับประกันภัยหรือของผู้รับประกันภัยต่อนั้นๆ |
PORTFOLIO PREMIUM | ยอดรวมเบี้ยประกันภัย | ยอดรวมเบี้ยประกันภัยของผู้รับประกันภัยโดยตรง หรือผู้รับประกันภัยต่อ |
PORTFOLIO REINSURANCE | การประกันภัยต่อตามยอดรวม | การประกันภัยต่อที่ผู้รับประกันภัยต่อจะรับภัยตามยอดรวมของธุรกิจทั้งหมด หรือจะรับเป็นอัตราส่วนของยอดรวมของธุรกิจนั้นก็ได้ |
PORTFOLIO RETURN | การคืนยอดรวม | การคืนยอดรวมเบี้ยประกันภัยต่อ กรณีที่สัญญาประกันภัยต่อสิ้นสุดลง แต่การประกันภัยยังมีผลบังคับอยู่ ผู้รับประกันภัยต่อจะคืนเบี้ยประกันภัยสำหรับส่วนของภัยที่ยังมีผลบังคับอยู่นั้นให้แก่ผู้เอาประกันภัยต่อ และไม่ต้องรับผิดต่อค่าสินไหมทดแทนที่อาจจะเกิดขึ้นหลังจากนั้น |
PORTFOLIO RUN-OFF | ยอดรวมติดพัน | การคงยอดรวมเบี้ยประกันภัยต่อไว้ในกรณีที่สัญญาประกันภัยต่อสิ้นสุดลง แต่การประกันภัยยังมีผลบังคับอยู่ ผู้รับประกันภัยต่อไม่ต้องคืนเบี้ยประกันภัยสำหรับส่วนของภัยที่ยังมีผลบังคับให้แก่ผู้เอาประกันภัยต่อ และผู้รับประกันภัยต่อยังต้องรับผิดต่อค่าสินไหมทดแทนที่เกิดขึ้นหลังจากที่สัญญาได้สิ้นสุดแล้ว |
PORTFOLIO TRANSFER | การโอนยอดรวม | การโอนยอดรวมของการประกันภัยจากผู้รับประกันภัยโดยตรงรายหนึ่งไปให้รายอื่น (มีความหมายเหมือนกับ transfer of portfolio) |
PORT RISKS INSURANCE | การประกันภัยเรือในท่า | การประกันภัยซึ่งให้ความคุ้มครองความเสียหายที่เกิดขึ้นในขณะที่เรือจอดเทียบท่าเพื่อการซ่อมแซมหรือหยุดใช้งานชั่วคราว ความคุ้มครองที่ให้ตามการประกันภัยแบบนี้ จะมากกว่าความคุ้มครองตามกรมธรรม์ประกันภัยตัวเรือระหว่างใช้งาน เช่น ในกรณีความรับผิดที่เกิดจากการชน กรมธรรม์ประกันภัยตัวเรือระหว่างการใช้งานจะจำกัดความรับผิดเพียง 3/4 ของความเสียหายที่เกิดขึ้น แต่ตามกรมธรรม์ประกันภัยเรือในท่าจะให้ความคุ้มครองเต็มตามความเสียหาย |
PORT TO PORT | ท่าถึงท่า | ระยะเวลาที่ให้ความคุ้มครองสำหรับ ก. การประกันภัยการขนส่งสินค้า ความคุ้มครองจะเริ่มต้นเมื่อมีการขนถ่ายสินค้าลงเรือ และสิ้นสุดเมื่อสินค้าถูกขนจากเรือ ณ จุดหมายปลายทาง หรือขนถ่ายไปสู่เรือของผู้รับสินค้า ข. การประกันภัยตัวเรือ ความคุ้มครองจะเริ่มขึ้นเมื่อเรือออกจากท่า และสิ้นสุดลงเมื่อเรือได้จอดเทียบท่าหรือทอดสมออย่างปลอดภัย ณ ท่าเรือปลายทาง (มีความหมายเหมือนกับ quay to quay) |
POSITIONS BOND | กรมธรรม์ค้ำประกันตำแหน่ง | กรมธรรม์ค้ำประกันความซื่อสัตย์ของผู้ดำรงตำแหน่งหน้าที่ โดยผู้รับประกันภัยจะให้ความคุ้มครองความสูญเสียหรือเสียหายแก่ผู้เอาประกันภัยในกรณีที่เจ้าหน้าที่ที่ดำรงตำแหน่งนั้นกระทำการทุจริต |
POSSIBLE MAXIMUM LOSS | ความเสียหายสูงสุดที่อาจเกิดขึ้น | มีความหมายเหมือนกับ maximum possible loss |
PREAMBLE | บทนำกรมธรรม์ | มีความหมายเหมือนกับ recital clause |
PRE-CREDIT RISK | ภัยก่อนการใช้สินเชื่อ | ในการประกันภัยสินเชื่อหมายถึงการเสี่ยงภัยที่เกิดขึ้นก่อยการส่งสินค้าไปขาย |
PRE-EXISTING CONDITION | สภาพที่เป็นอยู่ก่อน | ในการประกันภัยหมายถึงสภาพของสิ่งที่เอาประกันภัยที่เป็นอยู่ก่อนการประกันภัยจะมีผลบังคับ โดยมากมายถึงสุขภาพร่างกาย |
PREFERRED RISK | การเสี่ยงภัยน้อยกว่าปรกติ | ในการรับประกันชีวิตหมายถึง ภัยที่ผู้รับประกันชีวิตพิจารณาจากสภาพร่างกายงานอาชีพ ความเป็นอยู่และสิ่งแวดล้อมอื่นๆ แล้วเห็นว่าชีวิตจะยืนยาวหรืออยุ่ในเกณฑ์ที่ดีกว่าการเสี่ยงภัยปรกติ |
PREMIUM BASE | เบี้ยประกันภัยพื้นฐาน | มีความหมายเหมือนกับ base premium |
PREMIUM LIMIT | ขีดจำกัดเบี้ยประกันภัย | จำนวนสูงสุดของเบี้ยประกันภัยทั้งสิ้น ที่ผู้พิจารณารับประกันภัยของสถาบันลอยด์รายหนึ่งจะรับไว้ได้ ขีดจำกัดนี้กำหนดโดยพิจารณาจากฐานะและเงินมัดจำของผู้รับประกันภัยที่วางไว้กับสถาบันลอยด์ |
PREMIUM LOADING | ส่วนบวกเพิ่มเบี้ยประกันภัย | มีความหมายเหมือนกับ loading |
PREMIUM TAX | ภาษีเบี้ยประกันภัย | ภาษีที่เก็บจากเบี้ยประกันภัยซึ่งมีการจัดเก็บในบางประเทศ |
PREMIUM TO BE AGREED | เบี้ยประกันภัยตามที่จะตกลง | มีความหมายเหมือน premium to be arranged |
PREMIUM TO BE ARRANGED | เบี้ยประกันภัยตามที่จะตกลง | วลีที่ใช้เมื่อผู้รับประกันภัยตกลงที่จะคุ้มครองความเสียหาย แต่ยังไม่ได้มีการเจรจาตกลงกำหนดจำนวนเบี้ยประกันภัย ตามกฎหมายการประกันภัยทางทะเลของอัวกฤษกำหนดว่า ในกรณีเช่นนี้ให้คิดเบี้ยประกันภัยอย่างสมเหตุสมผล |
PREMIUM TRANSFER | การโอนเบี้ยประกันภัย | วิธีการโอนเบี้ยประกันภัยวิธีหนึ่ง ที่ใช้ภานในสถาบันลอยด์ สำหรับระยะเวลาของการประกันภัยเกินกว่า 12 เดือน ผู้รับประกันภัยกลุ่มแรกจะโอนเบี้ยประกันภัยที่ได้ชำระไว้แล้วสำหรับระยะเวลาที่เกินกว่า 12 เดือนนั้นไปให้กลุ่มผู้รับประกันภัยกลุ่มอื่นได้ (มีความหมายเหมือนกับ premium to be agreed) |
PREVENTION | การป้องกัน | โดยทั่วไปกรมธรรม์ประกันภัยจะมีข้อกำหนดให้เป็นหน้าที่ของผู้เอาประกันภัยที่จะต้องกระทำเพื่อป้องกันหรือลดความสูญเสียทุกวิถีทางอย่างสมเหตุสมผล |
PRIMARY EXPOSURE | โอกาสเสี่ยงภัยเริ่มแรก | ข้อความที่ใช้ในการรับประกันภัยการบิน ซึ่งหมายถึง การเสี่ยงภัยที่เกิดขึ้นจากเหตุการณ์ซึ่งแม้ว่าจะเป็นเหตุการณ์รุนแรง แต่ไม่มีลักษณะของมหันตภัย |
PRIMARY INSURANCE | การประกันภัยช่วงแรก | การประกันภัยในช่วงแรกของความรับผิด ซึ่งแตกต่างกับการประกันภัยส่วนเกินจากช่วงแรก ซึ่งจะมีการเอาประกันภัยในช่วงที่ 2 หรือ ช่วงที่ 3 ต่อไป |
PRIMARY REINSURANCE CLAUSE | ข้อกำหนดความรับผิดต่อผู้เอาประกันภัยเริ่มแรก | ข้อกำหนดในกรมธรรม์ประกันภัยที่กำหนดให้ ผู้รับประกันภัยต่อรับผิดในการจ่ายค่าเสียหายโดยตรงให้แก่ผู้เอาประกันภัยเริ่มแรก |
PRINCIPAL | ตัวการ | 1. บุคคลที่มอบหมายให้บุคคลอื่นซึ่งเรียกว่าตัวแทนกระทำการแทนตน 2. ในการประกันภัยค้ำประกัน หมายถึง บุคคลที่มีภาระผูกพันและนำภาระผูกพันนั้นไปประกันภัยไว้ ถ้าหากบุคคลดังกล่าวไม่สามารถปฏิบัติตามข้อผูกพันได้แล้ว ผู้รับประกันภัยจะต้องชดใช้ หรือดำเนินการตามข้อสัญญาในฐานะผู้ค้ำประกัน |
PROBABLE MAXIMUM LOSS | ความเสียหายสูงสุดที่น่าจะเป็น | การประมาณการความเสียหายสูงสุดที่น่าจะเป็นได้ในเหตุการณ์ใดเหตุการณ์หนึ่ง (มีความหมายเหมือนกับ maximum probable loss) |
PROCEEDS | จำนวนเงินประกันภัยที่จ่าย | จำนวนเงินสุทธิที่ผู้รับประกันภัยจ่ายให้แก่ผู้เอาประกันภัยเมื่อสัญญาครบกำหนดหรือจ่ายแก่ผู้รับประโยชน์เมื่อผู้รับประกันภัยถึงแก่กรรม |
PROCURATION FEE | ค่าตอบแทนจัดหาประกันภัย | ค่าธรรมเนียมหรือค่าบำเหน็จที่ผู้รับประกันภัยจ่ายให้แก่บุคคลเพื่อเป็นค่าตอบแทนสำหรับการแนะนำให้มีการเอาประกันภัยกับผู้รับประกันภัย |
PRODUCER | ผู้หาประกันภัย | 1. บุคคลที่ทำหน้าที่หาธุรกิจประกันภัยให้แก่ผู้รับประกันภัย 2. นายหน้าผู้ซึ่งไม่ใช่สมาชิกของสถาบันลอยด์ แต่เป็นผู้รับข้อเสนอขอเอาประกันภัย และนำข้อเสนอนั้นมาให้แก่นายหน้าของสถาบันลอยด์ เพื่อดำเนินการเอาประกันภัยกับสถาบันลอยด์ต่อไป |
PRODUCTS GUARANTEE | การประกันภัยค้ำประกันผลิตภัณฑ์ | การประกันภัยความเสียหายอันเกิดจากความบกพร่องของสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ที่ไม่เป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนด |
PRODUCTS LIABILITY INSURANCE | การประกันภันความรับผิดจากผลิตภัณฑ์ | การประกันภัยที่ให้ความคุ้มครองความรับผิดตามกฎหมายของผู้ผลิต ผู้จัดจำหน่าย ผู้ทดสอบ หรือผู้ให้บริการสินค้าสำหรับความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการที่สินค้าเหล่านั้นทำให้ผู้อื่นได้รับความเสียหาย |
PROFESSIONAL INDEMNITY INSURANCE | การประกันภัยความรับผิดจากวิชาชีพ | การประกันภัยที่ให้ความคุ้มครองความรับผิดตามกฎหมายของผู้ประกอบวิชาชีพสำหรับความรับผิดที่เกิดขึ้นจากการประกอบวิชาชีพนั้น เช่น แพทย์ที่รักษาคนไข้โดยความประมาทเลินเลอ มีผลทำให้คนไข้ได้รับความเสียหายหรือถึงแก่ความตาย และแพทย์ผู้นั้นจะต้องรับผิดต่อคนไข้ตามกฎหมาย |
PROFESSIONAL REINSURANCE | ผู้รับประกันภัยต่ออาชีพ | ผู้ที่ประกอบการรับประกันภัยต่อแต่เพียงอย่างเดียวโดยไม่รับประกันภัยโดยตรง |
PROFITS INSURANCE | การประกันภัยกำไร | การประกันภัยที่ให้ความคุ้มครองการสูญเสียผลกำไรซึ่งเกิดขึ้นกับเหตุการณ์ใดเหตุการณ์หนึ่งที่ไม่คาดคิด เช่น ไฟไหม้ เครื่องจักรเสียหาย ทำให้การผลิตต้องหยุดชงักและมีผลกระทบต่อกำไรที่ควรจะได้จากการผลิตนั้น |
PROOF OF LOSS | การพิสูจน์ความเสียหาย , เอกสารแสดงความเสียหาย | 1. การพิสูจน์ความเสียหาย หน้าที่ในการพิสูจน์ความเสียหายในทางกฎหมายถือเป็นหน้าที่ของผู้เอาประกันภัยซึ่งจะต้องพิสูจน์ว่ามีความเสียหายเท่าใด และความเสียหานนั้นเกิดจากภัยที่ได้เอาประกันภัยไว้ 2. เอกสารแสดงความเสียหาย เอกสารที่แสดงถึงความเสียหายที่เกิดขึ้นตามสัญญาประกันภัย ในกรมธรรม์ประกันภัยจะกำหนดไว้ให้เป็นหน้าที่ของผู้เอาประกันภัยจะต้องแสดงเอกสารนี้ต่อผู้รับประกันภัย |
PROPERTY DAMAGE INSURANCE | การประกันภัยความรับผิดต่อทรัพย์สิน | การประกันภัยที่ให้ความคุ้มครองความรับผิดจากการที่ผู้เอาประกันภัยไปก่อให้เกิดความเสียหายต่อทรัพย์สินของบุคคลอื่น (ใช้ในสหรัฐอเมริกา) |
PROPERTY INSURANCE | การประกันภัยทรัพย์สิน | การประกันภัยที่ให้ความคุ้มครองความเสียหายที่เกิดแก่ทรัพย์สินที่เอาประกันภัยไว้ |
PROPORTIONAL REINSURANCE | การประกันภัยต่อแบบตามสัดส่วน | การประกันภัยต่อที่มีข้อกำหนดว่า ผู้เอาประกันภัยต่อและผู้รับประกันภัยต่อจะแบ่งเบี้ยประกันภัยและค่าเสียหายระหว่างกันตามอัตราส่วนที่กำหนดไว้ (มีความหมายเหมือนกับ pro rata reinsurance) |
PROPORTIONAL RULE | กฎตามสัดส่วน | ข้อกำหนดเกี่ยวกับการใช้หลักว่าด้วยการค่าเฉลี่ยค่าเสียหายตามส่วน (ดู average condition ประกอบ) |
PROPORTIONATE BENEFITS | ผลประโยชน์ตามสัดส่วน | ในการประกันสุขภาพแบบถาวรจะมีข้อกำหนดว่า ในกรณีผู้เอาประกันภัยเกิดทุพพลภาพสิ้นเชิงแต่สามารถประกอบอาชีพอื่นที่มีรายได้ถ้ารายได้จากอาชีพใหม่น้อยกว่าอาชีพเดิมที่เคยได้รับ ผู้รับประกันภัยจะชดเชยให้ตามสัดส่วนของรายได้ที่ขาดไป เมื่อเปรียบเทียบกับรายได้เฉลี่ยก่อนเกิดทุพพลภาพ |
PROPOSAL | คำขอเอาประกันภัย | คำเสนอขอเอาประกันภัย โดยทั่วไปผู้เอาประกันภัยจะเสนอขอเอาประกันภัยโดยใช้ใบแบบที่ผู้รับประกันภัยจัดทำเป็นแบบพิมพ์ไว้ |
PROPOSAL FORM | ใบแบบคำขอเอาประกันภัย | ใบแบบที่ผู้ขอเอาประกันภัยเสนอต่อผู้รับประกันภัย โดยปรกติจะเป็นแบบพิมพ์สำเร็จ |
PRO-RATA PREMIUM | มีความหมายเหมือนกับ fractional reinsurance | |
PRO RATA REINSURANCE | การประกันภัยต่อแบบตามสัดส่วน | มีความหมายเหมือนกับ proportional reinsurance |
PROSECUTION CLAUSE | ข้อกำหนดการฟ้องคดี | ข้อกำหนดในกรมธรรม์ประกันภัยที่กำหนดไว้ว่า ในกรณีที่เกิดความเสียหายอันเนื่องมาจากการทุจริต ถ้าผู้รับประกันภัยมีความประสงค์จะให้ผู้เอาประกันภัยดำเนินคดี ผู้เอาประกันภัยผูกพันต้องดำเนินการฟ้องคดีต่อผู้ที่ทำให้เกิดความเสียหายนั้น |
PROSPECTIVE RATING | การกำหนดอัตราตามประสบการณ์ | การกำหนดอัตราเบี้ยประกันภัยโดยใช้ประสบการณ์ความเสียหายในอดีตมาเป็นหลักในการพิจารณากำหนด (มีความหมายเหมือนกับ experience rating) |
PROTECTED RISK | ภัยคุ้มกัน | ทรัพย์สินที่เอาประกันภัย ซึ่งในกรมธรรม์ประกันภัยกำหนดให้ต้องมีการดำเนินมาตรการพิเศษเพื่อป้องกันความเสียหายที่จะเกิดแก่ทรัพย์สินนั้น เช่น กำหนดให้ติดตั้งเครื่องสัญญาณเตือนภัยสำหรับการประกันภัยการโจรกรรม |
PROTECTION | การคุ้มกัน , ความคุ้มครอง | 1. การคุ้มกัน การดำเนินการด้วยวิธีต่างๆ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหาย 2. ความคุ้มครอง การคุ้มครองความเสียหายทางการเงิน โดยการเอาประกันภัย |
PROTECTION AND INDEMNITY CLUP | ชมรมความคุ้มครองและการชดใช้(ชมรมพีแอนด์ไอ) | กลุ่มของเจ้าของเรือที่รวมตัวกันขึ้น ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ความคุ้มครองความเสียหายที่เกิดแก่ตัวเรือของสมาชิกจากภัยบางประเภท ที่ไม่สามารถเอาประกันภัย จากผู้รับประกันภัยโดยทั่วไปได้ |
PROTECTION AND INDEMNITY RISKS | ภัยเกี่ยวกับความคุ้มครองและชดใช้ | เนื่องจากมีภัยบางอย่างไม่สามารถทำประกันภัยในตลาดประกันภัยทางทะเลได้ เจ้าของเรือจึงร่วมกันจัดตั้งชมรมขึ้นเรียกว่า ชมรมพีแอนด์ไอ เพื่อให้ความคุ้มครองแก่พวกตนภัยเกี่ยวกับความคุ้มครองได้แก่ ค่าใช้จ่ายจากการถูกกัก ความรับผิดต่อลูกเรือ และความเสียหายจากการที่เรือชนกันหรือกระแทก ความรับผิดต่อเรือลำอื่นในกรณีที่นอกเหนือจากการชน เป็นต้น ส่วนภัยเกี่ยวกับการชดใช้นั้น รวมถึงความรับผิดของเจ้าของเรือจากความสูญหายหรือเสียหายของสินค้าค่าปรับจากการเข้าเมืองโดยพลั้งเผลอ หรือจากความผิดเกี่ยวกับภาษีศุลกากร เป็นต้น |
PROTEST | ใบแจ้งยืนยัน | บันทึกที่นายเรือจัดทำขึ้นเพื่อแจ้งความเสียหายที่เกิดแก่เรือหรือสินค้าที่บรรทุกอยู่ในเรือ |
PROTRACTED DEFAULT | การยืดเยื้อไม่ชำระหนี้ | การประกันภัยสินเชื่อจะให้ความคุ้มครองต่อเจ้าหนี้โดยมีข้อกำหนดว่า ถ้าลูกหนี้ไม่ชำระเงินแก่เจ้าหนี้หลังจาก 90 วัน นับแต่วันที่ครบกำหนดชำระหนี้แล้ว ผู้รับประกันภัยจะเป็นผู้รับชดใช้หนี้ให้ การไม่ชำระหนี้ภายในระยะเวลาที่กำหนดไว้หลังจากวันครบกำหนดชำระหนี้แล้ว เรียกว่า การยืดเยื้อไม่ชำระหนี้ |
PROVISION | บทบัญญัติ ,เงินสำรอง | 1. บทบัญญัติ ข้อความที่บัญญัติไว้ในกฎหมายหรือในสัญญา 2. เงินสำรอง มีความหมายเหมือนกับ reserve |
PROVISIONAL PREMIUM | มีความหมายเหมือนกับ advance premium และ deposit premium | |
PROXIMATE CAUSE | สาเหตุใกล้ชิด | ต้นเหตุที่ทำให้เกิดความเสียหายโดยตรงหรือเป็นเหตุต่อเนื่องโดยไม่ขาดตอน ที่ทำให้เกิดความเสียหาย |
PUBLIC ADJUSTER | ผู้เจรจาตกลงทั่วไป | บุคคลซึ่งเจรจาตกลงและจัดการค่าสินไหมทดแทนในนามผู้เอาประกันภัยโดยได้รับค่าจ้าง |
PUBLIC AUTHORITY CLAUSE | ข้อกำหนดคำสั่งทางการ | ข้อกำหนดในกรมธรรม์ประกันอัคคีภัยที่ให้ความคุ้มครองสำหรับค่าใช้จ่ายพิเศษในการจัดสร้างอาคารให้สอดคล้องกับคำสั่งของทางการ |
PUBLIC LIABILITY INSURANCE | การประกันภัยความรับผิดต่อสาธารณะ | การประกันภัยที่ให้ความคุ้มครองต่อความรับผิดตามกฎหมายที่เกิดอุบัติเหตุและทำให้เกิดความบาดเจ็บแก่ร่างกายหรือความเสียหายของทรัพย์สินของบุคคลภายนอก |
PURE BURNING COST | ค่าเสียหายแท้จริง | มีความหมายเหมือนกับ burning cost |
PURE ENDOWMENT | การสะสมทรัพย์แท้จริง | การประกันชีวิตแบบหนึ่ง ซึ่งผู้รับประกันภัยจะจ่ายจำนวนเงินเอาประกันภัยให้แก่ผู้เอาประกันภัยเฉพาะเมื่อยังมีชีวิตอยู่ตามเวลาที่กำหนด |
PURE INDEMNITY | การชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแท้จริง | การชดใช้ค่าเสียหายตามสัญญาประกันภัยที่คำนวณขึ้นจากมูลค่าความเสียหายที่แท้จริง |
PURE LOST COST | จำนวนค่าสินไหมทดแทน | ค่าสินไหมทดแทนที่ไม่ได้รวมค่าใช้จ่ายอื่นใดทั้งสิ้น ระบุเป็นร้อยละของเบี้ยประกันภัย |
PURE PREMIUM | เบี้ยประกันภัยแท้จริง | เบี้ยประกันภัยที่เป็นส่วนของการเสี่ยงภัยที่แท้จริง ไม่รวมค่าใช้จ่ายต่างๆ และกำไร |
PURE RISK | การเสี่ยงภัยแท้จริง | การเสี่ยงภัยจากเหตุการณืไม่แน่นอนที่เกิดขึ้นตามธรรม์ชาติ เช่น การเกิดไฟไหม้ แผ่นดินไหว ตรงข้ามกับการเสี่ยงภัยเก็งกำไร (speculative risk) ซึ่งเกิดจากการจงใจสร้างความเสี่ยงภัยขึ้นเพื่อหวังกำไรทางธุรกิจ เช่น การซื้อหุ้นเพื่อหวังกำไร การเสี่ยงภัยเก็งกำไรเช่นนี้ ผู้รับประกันภัยจะไม่รับเสี่ยงภัย |
จำนวนผู้เข้าชม : 404 ครั้ง